รายละเอียดสินค้า นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ (A man called Intrepid) *พิมพ์ครั้งแรก*
ผลงานของ เซอร์วิลเลี่ยม สตีเฟนสัน( Sir William Stephenson)
พระราชนิพนธ์แปลของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ฯ
ประเภทปก แข็ง พร้อมใบหุ้มปก
กระดาษ ปอนด์
พิมพ์ครั้งที่ 1
ปีที่พิมพ์ พ.ศ.2536
สำนักพิมพ์ -
จำนวนหน้า 603 หน้า
ขนาด 180x250 มม.
สภาพหนังสือ:ใบหุ้มปกมีรอยขีดข่วนมีรอยยับที่ขอบด้านบน และปีกด้านหน้า เล็กน้อยตามภาพ , สันหนังสือด้านบนเป็นจุดเหลืองประปราย , โดยรวมสภาพค่อนข้างดี
รายละเอียดเพิ่มเติม:
นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ
เรื่องราวของ "นายอินทร์" และผู้ร่วมงานของเขา เป็นตัวอย่างของบุคคลพิเศษที่มีความกล้าหาญ เสียสละ ผู้ยอมอุทิศแม้ชีวิตเพื่อความถูกต้อง ความยุติธรรม เสรีภาพและสันติภาพ อันเป็นที่รักยิ่งของพวกเขา ทั้งนี้โดยไม่หวังให้ใครรับรู้ หรือหวังลาภยศคำสรรเสริญเยินยอใดๆ ทั้งสิ้น พวกเขานี้ คือ "ผู้ปิดทองหลังพระ" โดยแท้จริง
พระราชนิพนธ์แปลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเรื่อง "นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ" นั้น ทรงเริ่มงานตั้งแต่วันที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๒๐ ถึง ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๓ รวมเวลา ๓ ปี หนังสือเล่มนี้ทรงแปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ เรื่อง "A man called Intrepid" ของวิลเลียม สตีเฟนสัน เขียนจากชีวิตจริงของ "นายอินทร์" หรือ "INTREPID" เป็นนามรหัสของเซอร์วิลเลียม สตีเวนสัน เป็นหัวหน้าหน่วยราชการลับอาสาสมัครของอังกฤษ สมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ท่านผู้มีบทบาทสำคัญในการต่อต้านแผนร้ายของฮิตเลอร์ ซึ่งหวังแผ่อำนาจเข้าครอบครองโลก ท่านเป็นผู้จัดตั้งหน่วยงานลับขึ้น เพื่อแสวงหาความลับทางทหารของฝ่ายเยอรมันรายงานแก่เซอร์วินสตัน เชอรซิลล์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และประธานาธิบดีรูสเวลแห่งสหรัฐ ซึ่งได้ร่วมมือกันวางแผนต่อต้านฮิตเลอร์จนประสบชัยชนะในที่สุด
ผลงานของ "นายอินทร์" และผู้ร่วมงานของเขานั้นมีคุณค่าต่อโลกยิ่งนัก หากไม่มีพวก "นายอินทร์" ฮิตเลอร์อาจจะชนะสงครามก็ได้ และถ้าเป็นเช่นนั้น โฉมหน้าของโลกคงไม่เป็นเช่นทุกวันนี้ อย่างไรก็ตามการปฏิบัติงานของพวกเขา มีผู้รู้เบื้องหลังเพียงไม่กี่คนเท่านั้น จนกระทั่งเมื่อมีหนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ขึ้นมาแล้ว เรื่องราวที่เคยเป็นความลับมาก่อนจึงได้เผยขึ้น และต้นฉบับภาษาอังกฤษของเล่มนี้ ได้กลายเป็นหนังสือเบสท์เซลเลอร์ มียอดจำหน่ายมากกว่า ๒ ล้านเล่ม
เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ เป็นเรื่องราวของความร่วมมือทางสงครามจารกรรมระหว่างอังกฤษกับสหรัฐ ที่ได้ร่วมกันต่อต้านการขยายอำนาจของเยอรมันยุคนาซี โดยมีนายอินทร์เป็นผู้ประสานระดับสูง เรื่องราวต่างๆ ที่ผู้เขียนเลือกมาเปิดเผย โดยได้รับการตรวจสอบว่าถูกต้องตามข้อเท็จจริงด้วยตัว "นายอินทร์" เอง บางเรื่องน่าทึ่งยิ่งกว่านิยายสายลับที่แต่งขึ้นเสียอีก เช่น ปฏิบัติการขโมยเครื่องใส่-ถอดรหัสลับ "เอนิกมา" อันทันสมัยที่สุดของเยอรมัน ซึ่งฮิตเลอร์ภูมิใจหนักหนาว่าข่าวต่างๆ ที่ส่งด้วยเครื่อง "เอนิกมา" จะไม่มีผู้ใดสามารถแปลความได้ แต่ "นายอินทร์" สามารถวางแผนขโมยเครื่องได้ โดยฝ่ายเยอรมันไม่ระแคะระคายเลย จึงเป็นก้าวแรกที่ทำให้หน่วยจารกรรมของ "นายอินทร์" สามารถสืบข่าวสำคัญๆ ของฝ่ายเยอรมันได้สำเร็จ นอกจากนั้นยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับการปฏิบัติอย่างกล้าหาญของ "มาเดอแลน" สายลับของ "นายอินทร์" ที่เสี่ยงชีวิตเข้าไปในแดนข้าศึกแล้วส่งข่าวให้ "นายอินทร์" ตลอดจนการปฏิบัติการของสาว "ซินเธีย" สายลับอังกฤษแสนสวย ที่ใช้เสน่ห์ของตน ล้วงความลับเกี่ยวกับการถอดรหัสจากนักการทูตฝ่ายข้าศึกได้สำเร็จ
หนังสือเล่มนี้ยังได้เปิดเผยเบื้องหลังปฏิบัติการของหน่วยกล้าตายของ "นายอินทร์" ในการสังหารไฮดริด สมุนมือขวาจอมโหดของฮิตเลอร์ เบื้องหลังการช่วยเหลือนักวิทยาศาสตร์ชั้นหัวกระทิออกจากดินแดนยึดครองของนาซี การขัดขวางมิให้เยอรมันคิดค้นระเบิดปรมาณูได้สำเร็จ การวางแผนปฏิบัติการทางยุทธศาสตร์เพื่อต่อต้าน การยึดครองทวีปยุโรป อเมริกา และแอฟริกา ของนาซี ซึ่งทุกขั้นตอนต้องอาศัยความลับทางทหารที่เครือข่าย "นายอินทร์" เสาะหามาได้เป็นข้อมูลสำคัญ
"นายอินทร์" เขียนไว้ในคำนำหนังสือเล่มนี้ว่า เหตุผลที่เขายินยอมให้วิลเลียม สตีเวนสัน นำเรื่องราวเหล่านี้มาเปิดเผย ก็เพื่อเป็นการสดุดีผู้ที่ได้ต่อสู้เพื่อชาติเป็นจำนวนมาก ที่ต้องถูกฝังไว้ในหลุมศพ ที่ไร้นามไร้ที่อยู่ที่ตาย น้อยคนที่จะได้รับการกล่าวขวัญถึง นอกจากชื่อที่บันทึกในเอกสารลับ ส่วนใหญ่ที่รอดตายก็กลับมาประกอบอาชีพธรรมดา โดยไม่ได้รับเกียรติหรือรางวัลใดๆ ได้รับคำกล่าวถึงในหนังสือเล่มนี้ เป็นเพียงส่วนน้อยในจำนวนคนเป็นกองทัพมหึมา ซึ่งโลกเสรีเป็นหนี้บุญคุณซึ่งจะไม่มีทางใช้คืน และเหตุผลอีกข้อหนึ่งด้วย เพื่อเป็นบทเรียนสำหรับการป้องกันและการต่อสู้เพื่อเสรีภาพ
เรื่องราวของ "นายอินทร์" และผู้ร่วมงานของเขา เป็นตัวอย่างของบุคคลพิเศษที่มีความกล้าหาญ เสียสละ ผู้ยอมอุทิศแม้ชีวิตเพื่อความถูกต้อง ความยุติธรรม เสรีภาพและสันติภาพ อันเป็นที่รักยิ่งของพวกเขา ทั้งนี้โดยไม่หวังให้ใครรับรู้ หรือหวังลาภยศคำสรรเสริญเยินยอใดๆ ทั้งสิ้น พวกเขานี้ คือ "ผู้ปิดทองหลังพระ" โดยแท้จริง
ข้อมูลคัดลอกจาก
http://www.princess-it.org/kp9/hmk-IT/hmk-books.th.html