พระนางเธอลักษมีลาวัณ (3 กรกฎาคม พ.ศ. 2442 - 29 สิงหาคม พ.ศ. 2504) พระมเหสีในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นผู้ริเริ่มรื้อฟื้น คณะละครปรีดาลัย ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ขึ้นมาอีกครั้ง
พระนางเธอลักษมีลาวัณ พระนามเดิมว่า หม่อมเจ้าหญิงวรรณพิมล วรวรรณ เป็นพระธิดาพระองค์ที่ 14 (องค์ที่ 18 ในพระโอรส-ธิดา)ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ กับหม่อมหลวงตาด มนตรีกุล ประสูติเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2442 มีพระนามเรียกกันในหมู่พระญาติว่า “ติ๋ว”
หม่อมเจ้าหญิงวรรณพิมล สนพระทัยด้านวรรณกรรม และทรงพระนิพนธ์โคลงกลอนอยู่เสมอ เมื่อชันษา 21 ปี ได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในงานประกวดภาพเขียน ณ โรงละครวังพญาไท พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงชักชวนไปแสดงละครในวังหลวง และโปรดให้แสดงเป็นนางเอกในพระราชนิพนธ์หลายเรื่อง เช่น เป็นเจ้าหญิงอันโดเมดราในเรื่อง “วิวาหพระสมุท” นับเป็นสตรีท่านแรกที่ได้รับบทนางเอกในละครพูด
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าลักษมีลาวัณ ทรงได้รับการสถาปนาเป็น พระนางเธอลักษมีลาวัณ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2465 [2] แต่เนื่องจากพระนางเธอลักษมีลาวัณ มิได้มีรัชทายาทได้ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทั้งสองพระองค์จึงมิได้อภิเษกสมรสกัน และทรงตัดสินพระราชหฤทัยแยกกันอยู่
พระนางเธอลักษมีลาวัณ ทรงแยกอยู่ตามลำพัง ณ พระตำหนักในซอยพร้อมพงศ์ ริมคลองแสนแสบ ทรงใช้ชีวิตอย่างสงบ และทรงใช้เวลาว่างในการทรงพระนิพนธ์ร้อยกรอง บทละคร และนวนิยายไว้เป็นจำนวนมาก โดยทรงใช้พระนามแฝงว่า ปัทมะ วรรณพิมล และ พระนางเธอลักษมีลาวัณ ทรงดำเนินกิจการคณะละครปรีดาลัย ที่พระบิดาได้ทรงริเริ่มไว้ คณะละครปรีดาลัยในพระอุปถัมภ์ ได้สร้างศิลปินนักแสดงที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก เช่น มารุต, ทัต เอกทัต, จอก ดอกจันทน์
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ทรงย้ายไปประทับที่ พระตำหนักลักษมีวิลาศ ถนนศรีอยุธยา และทรงพระนิพนธ์บทกวี และนวนิยาย เช่น ชีวิตหวาม เรือนใจที่ไร้ค่า ยั่วรัก โชคเชื่อมชีวิต ภัยรักของจันจลา และ เสื่อมเสียงสาป เป็นต้น
พระนางเธอลักษมีลาวัณ ถูกคนร้ายลอบปลงพระชนม์เพื่อชิงทรัพย์ ณ พระตำหนักลักษมีวิลาศ สี่แยกพญาไท เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2504 พลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรรณไวทยากร กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ พระเชษฐาต่างพระมารดา ได้รับโทรศัพท์จาก นางสาวแน่งน้อย แย้มศิริ นิสิตจุฬาฯ เมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2504 เวลา 15.30 น. ว่าตนไปกดออดและโทรศัพท์เข้าไปยังวังลักษมีวิลาศ แต่ไม่มีใครตอบหรือรับสาย อาจจะมีเหตุร้าย พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ เสด็จไปยังวังลักษมีวิลาศ และทรงพบพระศพอยู่บริเวณข้างโรงรถ พระชนมายุรวม 62 ชันษา
คัดลอกข้อมูลบางส่วนจาก ไทยวิกิพีเดีย http://th.wikipedia.org และ หนังสือลักษมีนุสรณ์
หนังสือที่นำมาจัดแสดงมีดังนี้
1.เรือนใจที่ไร้ค่า
ปกแข็ง เดินทอง พร้อมใบหุ้มปก จัดพิมพ์โดยรวมสองภาคเข้าไว้ด้วยกัน พิมพ์ พ.ศ.2495 สนพ.โอเดียนสโตร์ หนา 533+480 หน้า
เรือนใจที่ไร้ค่า นับเป็นเรื่องแรกที่พระนางเธอลักษมีลาวัณ ได้ทรงนิพนธ์เป็นเค้าโครงทำนองแบบ ไทยไทย เพราะเรื่องก่อนๆเช่น ยั่วรัก และ ชีวิตหวาม นั้น พระนางได้ประทานไปในแบบทำนองตลอดจนกระทั่งชื่อบุคคล ล้วนไปในทางฝรั่งๆไม่เหมือนเรื่องนี้ ฉะนั้นเรื่องนี้ผู้อ่านก็จะพบแต่ฉากชีวิตที่เปิดขึ้นในเมืองไทย ในบ้านผู้ดี ในภูมิประเทศชนบทฟ้าเมืองไทย ในกรุงเทพฯ พร้อมทั้งการสังคมในแบบของไทยเราทั้งสิ้น
เรือนใจที่ไร้ค่า นี้ พระนางได้ทรงนิพนธ์ไปในแนว รักรันทด อันร้อนแรงในกรอบประเพณี ในระหว่างสังคมของผู้ดีและผู้ดีจัด ประกอบไปด้วยบทบาท รสของคำคมและเป็นคติ พรั่งพร้อมด้วยข้อคิดของบุคคลในเรื่องอันแสดงออกมาโดยละเอียดซึ่งความรู้สึก จนอาจทำให้ผู้อ่านได้ซาบซึ้งและเคลิบเคลิ้มตามไปด้วยตลอดเรื่อง...บางส่วนจากคำนำของสำนักพิมพ์
2.เสื่อมเสียงสาป
ปกแข็ง เดินทอง กระดาษธรรมดา พร้อมใบหุ้มปก พิมพ์พ.ศ.2496 สนพ.ผดุงศึกษา หนา 445 หน้า
3.ชีวิตหวาม
ผลงานของ Elinor Glyn แปลโดย พระนางเธอลักษมีลาวัณ ปกแข็ง กระดาษธรรมดา พร้อมใบหุ้มปก พิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ.2494 สนพ.โอเดียนสโตร์ หนา 511 หน้า
เรื่องราวชีวิตรักของ แอมโบรซีน แอดเธอสตัน หญิงสูงศักดิ์ผู้ยากไร้ที่ต้องอพยพโยกย้ายตามครอบครัวไปในหลายประเทศ ก่อนจะลงหลักปักฐานที่เลดสโตนปาร์ค ประเทศอังกฤษ ด้วยเหตุผลจำเป็นบางประการ แอมโบรซีนต้องเข้าพิธีสมรสกับออกัสตัส เกอร์เรซ คหบดีเจ้าของที่ดิน แต่แล้วในวันหนึ่ง "เขา" คนนั้นก็ก้าวเข้ามาในชีวิตของเธอ
พระนางเธอลักษมีลาวัณ ทรงถ่ายทอด "ชีวิตหวาม" ของเคาน์เตสแอมโบรซีนจากนวนิยายคลาสสิคเรื่อง "The Reflections of Ambrosine" ของ Elinor Glyn นักประพันธ์สตรีผู้มีชีวิตอยู่ในช่วง ค.ศ.1864-1943 และมีผลงานประพันธ์โด่งดังหลายเรื่อง นอกจากเรื่องนี้แล้วก็ได้แก่ The Visits of Elizabeth (1900), Three Weeks (1907), His Hour (1910), และ The Reason Why (1911) เป็นอาทิ กล่าวกันว่างานของ Elinor Glyn คือต้นแบบของนวนิยายแนวโรมานซ์ทั้งหมดที่แพร่หลายอยู่ในปัจจุบัน หากเปรียบเทียบงานของเธอกับ Barbara Cartland ก็จะเห็นอิทธิพลของเธอได้ชัดเจนทีเดียว
ผลงานของท่านจัดเป็น "หนังสือหายาก" แทบทุกเล่ม โดยเฉพาะเล่มนี้ที่ถือได้ว่าเป็นงานที่ได้รับความนิยมสูงสุดของท่าน (ขอบคุณข้อมูล และ ภาพใบหุ้มปกสวย ๆ จากร้านบางกอกบุคคลัภย์)
4.ภัยรักของจันจลา
ปกแข็ง เดินทอง กระดาษธรรมดา พร้อมใบหุ้มปก พิมพ์พ.ศ.2497 สนพ.บรรณาคาร หนา 791 หน้า
5.สนเท่ห์เสน่หา
ปกแข็ง เดินทอง กระดาษธรรมดา พิมพ์พ.ศ.2496 สนพ.บรรณาคาร หนา 605 หน้า (ขอบคุณภาพใบหุ้มปกสวย ๆ จากร้านหนังสือของแป้ง)
6.รักรังแก
ปกแข็ง เดินทอง กระดาษธรรมดา พิมพ์พ.ศ.249x สนพ.เขษมบรรณกิจ หนา 615 หน้า
7.พระนางเธอพระองค์เจ้าลักษมีลาวัณ ทรงพิมพ์เพื่อเป็นมิตรพลีในงานสมายุมงคลครบ 5 รอบ พ.ศ.2502 ปกอ่อน กระดาษปอนด์ หนา 46 หน้า เป็นบทกวี เช่น
"เขียนกลอนพออ่านได้ ดับเข็ญ
อันปากกายอมเปน เพื่อนแท้
แทนฉายส่ายสอดเห็น กระจ่าง
สุขทุกข์ปลุกปลอบแก้ กล่าวค้านเตือนกัน"
8.ม.ร.ว.ทิพยลาวัณ วรวรรณ พิมพ์ถวาย พระนางเธอฯ ในงานสมายุมงคลครบ 5 รอบ พ.ศ.2502 พร้อมภาพประกอบ ขาวดำ 3 ภาพ เป็นคำกลอนของเสด็จในกรมฯ ประทานแก่ลูก ๆ ในวาระต่าง ๆ กัน และ คัดจาก "วรวรรณดนุช" ที่ตีพิมพ์ พ.ศ.2468 เช่น
คำจารึกปลอกผ้าเช็ดพระหัตถ์ ประทานเมื่อ 3 กรกฎาคม 2464
"แม้ลูกรักรักพ่อขอให้นึก
แต่รู้สึกเสงี่ยมองค์อย่างหลงเหิม
ถึงแม้ติ๋วลอยละลิ่วก็ติ๋วเดิม
เดชเฉลิมบุญเราเพราะเจ้าเอยฯ"
จากวรวรรณดนุช
9.ลักษมีนุสรณ์ พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงพระศพ พระนางเธอลักษมีลาวัณ ม.จ.ก. , ป.จ., ว.ป.ร.๑ ณ เมรุหน้าพลับพลาอิสริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส 19 ตุลาคม 2504
ภาพส่วนพระองค์เหล่านี้คัดลอกจากหนังสือลักษมีนุสรณ์
10.พระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานแด่ พระนางเธอพระองค์เจ้าลักษมีลาวัณ